ด้วยกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 295 พ.ศ. 2548 เรื่องกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติก ให้มีความเหมาะสม ทันสมัย สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืนตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy บนพื้นฐานการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคจากการใช้ภาชนะบรรจุอาหาร จึงได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 435 พ.ศ. 2565 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร ทั้งนี้ประกาศฯ ฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
การพัฒนาและใช้งานภาชนะบรรจุอาหารในยุคปัจจุบันนั้นไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภคด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติกซึ่งมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายภาคส่วน เนื้อหานี้จะทำการวิเคราะห์ถึงความสำคัญของการมีมาตรฐานในการผลิตภาชนะบรรจุพลาสติกเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมทั้งแนะนำแนวทางในการเลือกใช้และการจัดการภาชนะบรรจุอย่างยั่งยืน

ความสำคัญของมาตรฐานภาชนะบรรจุพลาสติก
การกำหนดมาตรฐานของภาชนะบรรจุพลาสติกเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะภาชนะเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการบรรจุอาหารที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน ภาชนะที่ไม่มีคุณภาพอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น การปนเปื้อนของสารเคมีที่อาจมีผลกระทบต่อร่างกาย ดังนั้น การมีมาตรฐานในการผลิตเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าภาชนะเหล่านี้ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน
การกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานสำหรับภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติก
การใช้พลาสติกในภาชนะบรรจุเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถออกแบบมาให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่า
จะเป็นพลาสติกบริสุทธิ์หรือพลาสติกแปรใช้ใหม่ การกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้บริโภค ดังนั้น มาตรฐานสำหรับภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติกจึงประกอบไปด้วยหลายด้าน ดังต่อไปนี้
- ความสะอาด
ความสะอาดเป็นปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก การตรวจพินิจทางกายภาพจะช่วยให้แน่ใจว่าภาชนะบรรจุนั้นสะอาด ไม่มีสิ่งเจือปนหรือฝุ่นละอองที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภค - จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค
การตรวจหาจุลินทรีย์ที่อาจทำให้เกิดโรค เช่น Staphylococcus aureus, Clostridium perfringens, Bacillus cereus, และ Salmonella spp. เป็นส่วนสำคัญในการประเมินคุณภาพของภาชนะบรรจุพลาสติก การตรวจจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเหล่านี้แพร่กระจายจากภาชนะไปยังอาหาร - สารอันตรายที่แพร่กระจายออกมา
ภาชนะบรรจุจะต้องไม่มีสารอันตรายที่แพร่กระจายออกมาในปริมาณที่มีผลต่อสุขภาพ การพิจารณาสารอันตรายนี้รวมถึงการตรวจสอบตามบัญชีหมายเลข 1 ของกระทรวงสาธารณสุขและการประเมินสารที่ตรวจพบตามมาตรฐานของ Commission Regulation (EU) - ผลกระทบต่อลักษณะของอาหารที่บรรจุ
ภาชนะบรรจุต้องไม่ทำให้ลักษณะของอาหารหรือองค์ประกอบอาหารเปลี่ยนแปลงจนยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะการแพร่กระจายของสารจากภาชนะไปยังอาหารที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกลิ่นหรือรสชาติ - ภาชนะบรรจุมีสี
การใช้สีในภาชนะบรรจุต้องเป็นสีที่ปลอดภัยสำหรับการสัมผัสอาหาร ไม่มีการปล่อยสีออกมาปนเปื้อนกับอาหาร และต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสีสำหรับพลาสติกที่สัมผัสอาหาร - ภาชนะบรรจุมีการพิมพ์ ลายหรือข้อความ
หมึกที่ใช้ในการพิมพ์ลายหรือข้อความบนภาชนะบรรจุต้องไม่หลุดลอกออกมาสู่อาหาร การตรวจพินิจทางกายภาพจะช่วยให้แน่ใจว่าหมึกพิมพ์นั้นติดแน่นและไม่มีผลเสียต่อคุณภาพของอาหาร
การกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานสำหรับภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติกเป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคควรให้ความสนใจ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค
เคล็ดลับในการเลือกภาชนะบรรจุอาหารเพื่อสุขภาพ
การบรรจุอาหารในภาชนะ นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร แต่ความปลอดภัยนี้ไม่ได้มีเฉพาะจากอาหารเท่านั้น แต่ยังมาจากภาชนะที่เราเลือกใช้ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เราขอนำเคล็ดลับการเลือกภาชนะบรรจุมาฝากให้คุณคนได้ทราบกันดังนี้
- ภาชนะจากพลาสติกเก่า: ห้ามใช้ภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติกเก่าที่เคยใช้บรรจุปุ๋ย วัตถุมีพิษ หรือวัตถุอันตรายอื่น ๆ เนื่องจากเสี่ยงต่อการเป็นพิษและเสียสุขภาพ
- ภาชนะบรรจุที่ทำขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะบรรจุที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบรรจุอาหาร โดยเฉพาะที่มีรูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารที่บรรจุอยู่
การเลือกภาชนะบรรจุที่ถูกต้องเป็นการปกป้องสุขภาพของครอบครัวคุณ ดังนั้น ควรมีความรู้และระมัดระวังในการเลือกภาชนะเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี
คำแนะนำ: เมื่อต้องการเลือกภาชนะบรรจุ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน และรับรองจากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของอาหารที่คุณบริโภค
ทำความเข้าใจมาตรฐานคุณภาพและการแพร่กระจายของภาชนะบรรจุพลาสติกตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ความปลอดภัยและสุขภาพของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดเมื่อผลิตภาชนะบรรจุจากพลาสติก การประกาศของกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดมาตรฐานคุณภาพและการแพร่กระจายสำหรับภาชนะบรรจุพลาสติก เพื่อความปลอดภัยและเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งประกอบด้วย:
- คุณภาพหรือมาตรฐานการแพร่กระจายทั้งหมด (Overall Migration Limit): กำหนดขีดจำกัดของการแพร่กระจายทั่วไปจากภาชนะบรรจุไปยังอาหาร ซึ่งครอบคลุมสารทุกประเภทที่อาจละลายออกมาจากพลาสติก
- คุณภาพหรือมาตรฐานการแพร่กระจายโลหะหนัก: มีการกำหนดให้มีการตรวจวิเคราะห์โลหะหนักจำนวน 19 ชนิดที่อาจอยู่ในภาชนะบรรจุพลาสติก เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
- คุณภาพหรือมาตรฐานการแพร่กระจายสารไพรมารีแอโรแมติกแอมีนส์ (PAAs): PAAs เป็นสารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 กรณี:
- a. กรณีภาชนะบรรจุที่ใช้สีหรือหมึกพิมพ์: ต้องไม่มี PAAs จากสารแต่งสีชนิดแอโซ (azocolourants) 22 ชนิด ซึ่งสาร PAA แต่ละชนิด ต้องตรวจไม่พบ ที่ขีดจำกัดของการตรวจวัด (limit of detection: LOD) – 1.112 มิลลิรัมต่อกิโลกรัม
- b. กรณีภาชนะบรรจุที่ผลิตจากสารตั้งต้นเป็นกลุ่ม PMs: กำหนดมาตรฐานสำหรับ 4 ชนิดของ PMs ภาชนะบรรจุพลาสติกแต่ละประเภทที่ผลิตออกมาจะต้องผ่านการตรวจสอบและวิเคราะห์เพื่อความปลอดภัย
- คุณภาพหรือมาตรฐานการแพร่กระจายสารจำเพาะ (Specific Migration Limits): กำหนดมาตรฐานสำหรับการแพร่กระจายของสารเฉพาะจากภาชนะบรรจุพลาสติกไปยังอาหาร ตามลักษณะและการใช้งานของพลาสติกบางชนิด
การกำหนดมาตรฐานเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยและการป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภค การปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายภาชนะบรรจุพลาสติกมีความรับผิดชอบในการผลิตสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกใช้สินค้าอย่างมีสติและปลอดภัย
แนวทางการกำหนดเอกสารหลักฐานสำหรับประเมินความปลอดภัยของภาชนะบรรจุพลาสติก
คำแนะนำสำหรับการรวบรวมเอกสารหลักฐานและข้อมูลที่จำเป็นในการประเมินความปลอดภัยของภาชนะบรรจุพลาสติกตามข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานการผลิต รวมถึงการศึกษาคุณสมบัติและการแพร่กระจายของสารเคมีที่ใช้ในการผลิตและขึ้นรูปภาชนะบรรจุพลาสติก
1. ข้อมูลเกี่ยวกับพลาสติก:
- ชนิดของพลาสติกที่ใช้ในการผลิต
- ชื่อและที่ตั้งของโรงงานผู้ผลิตพลาสติก
- รายชื่อและข้อกำหนดเฉพาะของสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตพลาสติก เช่น มอนอเมอร์และสารตั้งต้นอื่นๆ
- เอกสารที่อธิบายถึงกระบวนการผลิตพลาสติก
- รายชื่อและปริมาณของสารแปลกปนที่อาจมีอยู่ในพลาสติก
- ผลการศึกษาเกี่ยวกับการแพร่กระจายของสารเคมีในพลาสติก
- รายงานการศึกษาความปลอดภัยหรือพิษวิทยาของสารเคมีที่ใช้
2. ข้อมูลเกี่ยวกับภาชนะบรรจุ:
- ชื่อและที่ตั้งของโรงงานผู้ผลิตภาชนะบรรจุ
- รายชื่อสารเคมีและข้อกำหนดเฉพาะที่ใช้ในกระบวนการผลิตภาชนะ
- เอกสารที่อธิบายกระบวนการผลิตภาชนะบรรจุ
- ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับคุณสมบัติของภาชนะบรรจุ
- รายชื่อและปริมาณสารแปลกปนในภาชนะบรรจุ
- ผลการศึกษาการแพร่กระจายของสารเคมีในภาชนะบรรจุ
- รายงานการศึกษาความปลอดภัยหรือพิษวิทยาของสารที่ใช้ในการผลิตภาชนะ
3. เอกสารสนับสนุน:
- เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการอนุญาตและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกและภาชนะบรรจุ
- ผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพหรือมาตรฐานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด
การเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการประเมินความปลอดภัยเป็นไปอย่างราบรื่นและให้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ อันจะนำไปสู่การผลิตภาชนะบรรจุที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและยังช่วยให้ผู้ผลิตปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องได้อย่างเคร่งครัด
เอกสารอ้างอิง
1) ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงสาธารณุข (ฉบับที่ 435) พ.ศ. 2565
2) https://qsgconsult.com/blog-detail.php?id=475