• Knowledge
  • วิธีลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์โดยไม่ลดคุณภาพ

วิธีลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์โดยไม่ลดคุณภาพ

การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์กำลังเป็นนโยบายที่เจ้าของกิจการเลือกใช้ในปัจจุบัน โดยมีโจทย์สำคัญคือสินค้ายังอยู่ในลิสต์ของตลาด และคงคุณภาพเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีการดำเนินการจัดการเรื่องต้นทุนบรรจุภัณฑ์ลงก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในเวลานี้ และสินค้ายังเป็นส่วนหนึ่งของตลาดได้อย่างยั่งยืน ส่วนจะมีกลยุทธ์และวิธีการลดต้นทุนด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์ราคาประหยัดอย่างไรได้บ้างวันนี้แสงรุ่งกรุ๊ปมีคำตอบ

กลยุทธ์และวิธีการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์โดยไม่ลดคุณภาพต้องทำอย่างไร ?

บรรจุภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพของสินค้า ซึ่งบรรจุภัณฑ์บางชนิดมีต้นทุนสูง ทำให้การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์เป็นแนวทางที่เจ้าของธุรกิจหลายแห่งเลือกใช้ เพื่อคงคุณภาพสินค้าให้คงเดิม พร้อมทั้งช่วยแก้ปัญหาการแบกต้นทุนบรรจุภัณฑ์และกระบวนการการผลิตสินค้า โดยมีกลยุทธ์และวิธีการดังนี้

วิธีลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกแต่ยังคงคุณภาพคือ 

  • ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่คุ้มค่า ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
  • วางเป้าหมายการลดต้นทุนทั้งวัสดุ วิธีการและขั้นตอน การตลาดให้ชัดเจน
  • มีการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ดีทั้งการจัดเก็บ การขนส่ง และการบริหารคลังสินค้า เพื่อช่วยลดต้นทุน

กลยุทธ์ในการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์แต่ยังคงคุณภาพไว้

กลยุทธ์ลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่เพียงแค่ลดค่าใช้จ่ายเพิ่มกำไร แต่ยังแสดงถึงขีดความสามารถของแบรนด์นั้น ๆ ในการแข่งขันทางการตลาด ดังนั้นเจ้าของกิจการจะต้องเลือกกลยุทธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดำเนินธุรกิจระยะยาวและเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูว่ามีกลยุทธ์อะไรน่าสนใจกันบ้าง

ใช้บริการจากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์มากประสบการณ์

การเลือกใช้บริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์กลุ่มพลาสติก สิ่งที่เจ้าของกิจการได้รับกลับไปมีมากกว่าการได้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังมั่นใจกำลังการผลิตทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ การดีไซน์ จนถึงกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ตรงตามความต้องการของลูกค้า และเหมาะสมกับแบรนด์จริง ๆ อีกทั้งลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายได้ และยิ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองจากมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น มอก.พลาสติก 2553 ยิ่งทำให้เจ้าของกิจการมีความมั่นใจว่าได้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้ตามเป้าหมายแน่นอน และสามารถวางแผนกำหนดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ง่ายขึ้น 

“ยกตัวอย่างเช่น การใช้บริการ บริษัท แสงรุ่ง กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการผลิตพลาสติกมากว่า 50 ปี พร้อมเครื่องจักรและแม่พิมพ์สำเร็จรูป (Common Mold) ทันสมัย จำนวนมากกว่า 70 ตัว ทำให้มีกำลังผลิตจำนวนมากได้ตามความต้องการของเจ้าของกิจการภายในระยะเวลาที่กำหนด เป็นผลดีต่อการเพิ่ม Mass ในสินค้าได้ในเวลาสั้นลง เป็นต้น”

เลือกใช้บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีบริการครบวงจร

กลยุทธ์การลดต้นทุนของเจ้าของกิจการอีกหนึ่งวิธีคือ การเลือกใช้บริการบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีบริการครบวงจร เนื่องจากส่งผลดีต่อการจัดการและกำหนดค่าใช้จ่ายขององค์กรอย่างง่ายดาย อย่างเช่น แสงรุ่ง กรุ๊ป บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีบริการครบวงจร สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของกิจการ ทั้งในส่วนของแบบบรรจุภัณฑ์ ความหลากหลายของบรรจุภัณฑ์ มาตรฐานการผลิต การให้บริการแบบมืออาชีพ ตลอดจนมีงานพิมพ์และงานฉลาก รวมถึงงานบริการด้านการขนส่งที่ตอบโจทย์ ทำให้เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจัดหาบริษัทขนส่งบรรจุภัณฑ์มายังแบรนด์ โดยมีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้

  1. แนะนำ เสนอแนะข้อมูลได้ดี 

บริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สามารถเสนอแนะ ให้คำแนะนำ รวมถึงสามารถประชุมพร้อมทั้งวางแผนค้นหา The Best Solution เพื่อให้ได้วัสดุที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ในการนำวัตถุดิบสู่กระบวนการผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้การเลือกทำสัญญาว่าจ้างให้บริษัทใหญ่ และมีประสบการณ์ นอกจากจะได้รับความมั่นใจว่าได้บรรจุภัณฑ์ถูกต้อง พร้อมคุณภาพสูงแล้ว สิ่งที่น่าสนใจของการเลือกใช้บริษัทขนาดใหญ่คือ มีแม่พิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของอาหาร

ยา หรือเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ครบในที่เดียว ทำให้เจ้าของแบรนด์ไม่เสียเวลาในการขึ้นแบบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จนเสียโอกาสทางการตลาดไปอย่างน่าเสียดาย และการใช้บริการบริษัทผลิตเดิมอย่างต่อเนื่องยังมีโอกาสได้รับส่วนลดเพิ่มเติมในตัวเช่นกัน

  1. มีการควบคุมคุณภาพ และการพัฒนาทุกขั้นตอน 

การเลือกใช้บริการบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ทที่มีบริการครบวงการ สิ่งที่ตามมาคือความน่าเชื่อถือในด้านการผลิต เพราะมีการควบคุมคุณภาพของวัสดุ ขั้นตอนการผลิตและการทดสอบจนได้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพตาม มอก.2553 นอกจากนั้นบริษัทการผลิตยังมีพัฒนาคน เทคโนโลยี กระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีแม่พิมพ์บรรจุภัณฑ์ตามเทรนด์หรือกระแส โดยจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้ง่าย เพราะรูปแบบบรรจุภัณฑ์จะเป็นภาพจำของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว  

  1. มีความหลากหลายของแบบพิมพ์และบริการขนส่ง

บริษัทสามารถผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวบรรจุภัณฑ์ ฝาปิด งานพิมพ์และฉลากบนบรรจุภัณฑ์ ตามแบบที่ลูกค้าต้องการหรือออกแบบด้วยตัวเอง หรือแบบที่บริษัทมีให้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของกิจการโดยง่าย นอกจากนั้นยังมีบริการจัดส่งบรรจุภัณฑ์ถึงผู้สั่งผลิต ทำให้เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดหา

มีเทคโนโลยีทันสมัยในการผลิตบรรจุภัณฑ์

การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ดำเนินการผลิตบรรจุภัณฑ์เป็น อย่างเช่น ระบบ Automation (ระบบอัตโนมัติ) มาใช้ในการออกแบบตลอดจนถึงขั้นตอนการผลิตบรรจุภัณฑ์ มีข้อดีมากมายในการช่วยลดต้นทุน นั่นก็คือ สามารถเพิ่มกำลังผลิตจำนวนมากในเวลารวดเร็ว บวกกับเทคโนโลยีมีความแม่นยำส่งผลให้สามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการทำงานด้วยแรงงานคนได้ นอกจากนั้นการเลือกใช้บริษัทที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับดีไซน์บรรจุภัณฑ์มีความทันสมัย และตรงตามความต้องการของเจ้าของกิจการง่ายขึ้น 

สั่งผลิตในปริมาณมาก 

การตัดสินใจสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์ในปริมาณมากถือว่าเป็นวิธีการลดต้นทุนที่มีส่วนช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อหน่วย หรือในแต่ละครั้งได้มาก เนื่องจากหากมีคำสั่งผลิตภัณฑ์ในปริมาณมากเท่ากับว่า เจ้าของแบรนด์สามารถกำหนดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ง่าย และเหมาะสมต่อชนิดสินค้ารวมถึงจำนวนสินค้าในการผลิตแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุ ค่าแรง รวมถึงค่าเครื่องจักร ตลอดจนค่าขนส่งและการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากหลังจากผลิตบรรจุภัณฑ์ครบตามคำสั่งแล้ว การขนส่งจะสามารถขนส่งได้ในครั้งเดียวเป็นจำนวนมาก ซึ่งดีต่อการสต๊อกบรรจุภัณฑ์ในอนาคตเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการผลิตและขนส่งได้เช่นกัน

หลักการสำคัญในการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ และข้อควรระวังมีอะไรบ้าง

การเลือกแนวทางการลดต้นทุนในการผลิต ใช้หรือทำลายบรรจุภัณฑ์ ยังมีข้อมูลอีกหลายด้านที่เจ้าของกิจการต้องทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์ราคาประหยัด หรือบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล นั่นก็คือจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของการลดต้นทุนส่วนต่าง ๆ และเลือกใช้แผนลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในกิจการอย่างดีก่อนลงมือทำ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามในภายหลัง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อแบรนด์แน่นอน โดยมีรายละเอียดดังนี้

หลักการสำคัญในการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์

  1. ในส่วนของหลักการสำคัญก่อนตัดสินใจลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่เจ้าของแบรนด์จะต้องทำมีดังนี้
  2. วิเคราะห์ต้นทุนทั้งหมดของปัจจุบันทั้งโครงสร้าง เพื่อหาจุดที่ไม่จำเป็น และควรแก่การปรับปรุง
  3. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าการลดต้นทุนมีเป้าหมายอย่างไร และต้องใช้วิธีการวัดผลอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  4. มองหาทางเลือกที่หลากหลาย หมายถึงเจ้าของแบรนด์จะต้องมีทางเลือกมากกว่า 1 ทาง ทั้งการออกแบบ วัสดุ และกระบวนการผลิต 
  5. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพทั้งดีไซน์ น้ำหนัก มีเอกลักษณ์สื่อถึงแบรนด์ การขนย้ายสะดวกไม่เสียหายง่าย และไม่ส่งผลกระทบต่อแบรนด์รวมถึงความพึงพอใจต่อลูกค้า

ข้อควรระวังของการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์

ถึงแม้ว่าการลดต้นทุนของบรรจุภัณฑ์เป็นเรื่องที่ดี มีวิธีการลดต้นทุนที่หลากหลาย แต่ถึงอย่างไรเจ้าของแบรนด์ยังต้องระมัดระวังไม่ให้การลดต้นทุนก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อแบรนด์ในด้านต่าง ๆ โดยยกตัวอย่างดังนี้

คุณภาพและความแข็งแรงของบรรจุภัณฑ์

เจ้าของแบรนด์จะต้องคำนึงถึงคุณภาพและความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการนำมาใช้เพื่อบรรจุสินค้าแต่ละชนิดในแบรนด์ของตัวเอง โดยมีหัวใจหลักคือสามารถปกป้องผลิตภัณฑ์ไม่ให้เกิดความเสียหายได้อย่างเหมาะสม

ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

ในการตัดสินใจตัดต้นทุนบางอย่างออกไปจากกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์จะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกด้านลบที่มีต่อแบรนด์ ดังนั้นการตัดสินใจลดต้นทุนจะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าสามารถสร้างความประทับใจต่อลูกค้าได้อย่างเดิม รูปแบบบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ยังสามารถเพิ่มความประทับใจต่อลูกค้าเหมือนเดิม โดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าปริมาณ คุณค่าและคุณภาพของสินค้าด้อยลงจากเดิม

มีมาตรฐานอุตสาหกรรมและเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย

อีกหนึ่งข้อควรระวังที่เจ้าของแบรนด์จะละเลยไม่ได้คือการดำเนินการออกแบบ ขั้นตอนการผลิต และใช้บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม เหมาะกับชนิดของผลิตภัณฑ์จริง ๆ รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ตั้งแต่วัสดุที่นำมาใช้เพื่อผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์จะต้องถูกต้องตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

การสื่อสารกับลูกค้าอย่างเหมาะสม

หลังจากมีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เจ้าของแบรนด์จะต้องสื่อสารให้ลูกค้ารับทราบ และทำความเข้าใจถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งอย่างละเอียด รวมถึงทำความเข้าใจถึงคุณค่า และคุณภาพของสินค้ายังคงเดิม เพื่อลดความไม่มั่นใจที่ลูกค้าจะมีต่อแบรนด์

สรุป: การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ โดยไม่ลดคุณภาพ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจก้าวหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน

การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์เป็นแผนการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ต่าง ๆ มากมายในปัจจุบัน เนื่องจากการแบกต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มตาม สิ่งที่ตามมาคือส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าโดยตรง ทำให้หลายแบรนด์เลือกวิธีลดต้นทุนในการส่วนของแพ็คเกจจิ้ง ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือเปลี่ยนการใช้วัสดุต่าง ๆ ที่มีต้นทุนน้อยกว่า แต่คงคุณภาพไม่ต่างกัน เช่น การใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ การนำใช้ QR Code สำหรับอ่านข้อมูลผลิตภัณฑ์ และการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ เป็นต้น เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำและยังสามารถเติบโตในตลาดได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ

error: Content is protected !!