• Knowledge
  • ข้อดีของการใช้ถังพลาสติกแทนถังโลหะในอุตสาหกรรม

ข้อดีของการใช้ถังพลาสติกแทนถังโลหะในอุตสาหกรรม

ปัจจุบันถังพลาสติกมีความบทบาทต่อวงการอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของธุรกิจหันมาให้ความสำคัญในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกมากขึ้น เนื่องจากมีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของกิจการมากกว่าถังโลหะหรือถังชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานหลากหลาย รวมถึงช่วยประหยัดต้นทุน ดังนั้นเพื่อไม่เสียเวลามาหาคำตอบร่วมกับ แสงรุ่ง กรุ๊ป ถึงข้อดีของอุตสาหกรรมพลาสติกมีดีเรื่องไหนบ้าง เพิ่มความมั่นใจต่อผู้ใช้งานจริง!

ถังพลาสติกอีกหนึ่งทางเลือกช่วยเพิ่มกำไร!

การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ในวงการอุตสาหกรรม มีส่วนสำคัญทำให้ถังพลาสติกจึงเข้ามาบทบาทมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของกิจการได้ดีกว่าถังโลหะ อีกทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีนำไปสู่การโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับถังพลาสติกที่น่าสนใจดังนี้

วัสดุที่นิยมใช้ทำถังพลาสติกในอุตสาหกรรมพลาสติก

สำหรับบรรจุภัณฑ์พลาสติกในอุตสาหกรรมพลาสติกมาจากวัสดุหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่ทำมาจากวัสดุ 4 ชนิด ดังนี้

พลาสติก HDPE

พลาสติก HDPE (High Density Polyethylene) คือ พอลิเอทีลีนที่ผลิตจากแก๊สเอทิลีน ซึ่งผ่านกระบวนการเติมสารทำให้มีคุณสมบัติจับตัวเป็นโพลีเมอร์ได้  สามารถทนต่อแรงดันได้หลายขนาด ทนความร้อนได้ 80-100 องศาเซลเซียล มีความคงทนของวัสดุและเหนียว สามารถทนต่อสารเคมีได้ดี แต่มีจุดอ่อนคือหากมีความหนาแน่นของโมเลกุลของโพลีเมอร์ลดลงจะทำให้ผิวแตกร้าวได้ง่าย ทนความร้อนไม่ดีมากนัก และอากาศซึมผ่านได้ ปัจจุบันนิยมใช้ผลิตภาชนะหลายประเภท เช่น ถังน้ำ ขวดพลาสติก ขวดน้ำดื่ม บรรจุภัณฑ์ทำความสะอาด แกลลอน ขวดน้ำมัน และขวดแชมพู ฯลฯ

พลาสติก PP

พลาสติก PP (Polypropylene) หรือ โพลีโพรฟีลีน คือ พลาสติกที่มีคุณภาพ นิยมนำมาใช้ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย จึงได้รับการยอมรับว่าเป็น “Food Grade” โดยจัดว่าเป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นต่ำ สามารถนำมาหลอมจนขึ้นรูปต่าง ๆ ได้ตามต้องการได้ง่าย มีความคงทนของวัสดุและทนต่ออุณหภูมิสูง ป้องกันความชื้นได้ดี แต่มีจุดด้อยคือทนต่อความเย็นได้น้อย ปัจจุบันนิยมนำมาผลิตเป็น ถุงร้อน, บรรจุภัณฑ์เข้าไมโครเวฟได้, จาน-ชาม

พลาสติก PET

พลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate) คือ พอลิเมอร์ที่มีโมเลกุลสูงจึงมีความเหนียวสูงมาก แข็งแรงทนทาน ไม่เปราะง่าย มีสีใสแวววาว มีความปลอดภัยสามารถใช้บรรจุเครื่องดื่มและอาหารได้ รวมถึงสามารถทนต่อกรดและป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้ดี จึงนิยมนำมาใช้ผลิตเป็น ขวดบรรจุเครื่องดื่ม ขวดน้ำดื่ม น้ำอัดลม ขวดน้ำมัน ฟิล์ม ขวดพลาสติก แผ่นอะลูมิเนียม รวมถึงแปรรูปเป็นเสื้อยืดหรือใยสังเคราะห์เมื่อหลอมใหม่ได้ นอกจากนั้นยังเป็นพลาสติกชนิดเดียวที่สามารถรีไซเคิลได้ 100%

พลาสติก PVC

พลาสติก PVC (Polyvinyl Chloride) เป็นพลาสติกแข็งมีสีขาว ไม่มีกลิ่น ยืดหยุ่นและแข็งแรงสูง ทนต่อสารเคมี ไม่ติดไฟ ราคาถูก สามารถขึ้นรูปได้ง่ายแต่มีจุดอ่อนคือเปราะง่ายและทนแรงกระแทกได้ต่ำ นิยมใช้ผลิตเป็น ซองยา ถุงเก็บเลือด ท่อ สายยาง ถุงบรรจุอาหาร ถาดใส่อาหาร และฟิล์มถนอมอาหาร เป็นต้น

ข้อดี-ข้อเสียของพลาสติก

ข้อดี

  • ราคาต้นทุนไม่สูงและรีไซเคิลได้
  • ทนต่ออุณหภูมิสูง-เย็น รวมถึงสารเคมี
  • น้ำหนักเบา ไม่นำความร้อน ไม่น้ำไฟฟ้า
  • แข็งแรง มีความยืดหยุ่น เหนียว และแปรรูปได้ง่าย
  • ไม่เป็นสนิมเพราะมีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของอากาศ น้ำ และความชื้นได้

ข้อเสีย

  • ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ใช้พลาสติกทำลายได้ยาก หรือไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ใหม่
  •  มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค ในกรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้ใช้พลาสติกที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย

พิจารณาเลือกใช้ถังพลาสติกต้องทำอย่างไร

การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกในวงการอุตสาหกรรมพลาสติกจะต้องมีแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ และไม่ส่งผลเสียต่อการดำเนินการของกิจการ ซึ่งมีวิธีพิจารณาเลือกใช้งานง่าย ๆ ดังนี้

  1. ถังต้องมีความจุพอดีกับการใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  2. มีความทนทาน ไม่แตกหักได้ง่าย และต้องได้รับมาตรฐานสากล
  3. การใช้งานและการบำรุงรักษาไม่ยุ่งยาก และมีอายุการใช้งานได้นาน
  4. มีคุณสมบัติทนต่อสภาพแวดล้อม และไม่แปรสภาพเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางอากาศ
  5. ตรวจสอบวัสดุที่นำมาใช้ผลิตมีความปลอดภัย เหมาะสมต่อการใช้งานจริง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายในภายหลัง

ความสำคัญของถังโลหะในอุตสาหกรรมปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับถังโลหะในวงการอุตสาหกรรมก็ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และจัดว่าเป็นบรรจุภัณฑ์อีกชนิดที่ได้ชื่อว่าเป็นส่วนประกอบหลักของภาคอุตสาหกรรม เพราะยังมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติที่ยังทำให้พลาสติกยังไม่สามารถแทนที่ได้ อย่างเช่น ความแข็งแรงและทนทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีที่มีการกัดกร่อนสูงมาก และผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีแรงดันสูง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

วัสดุที่นิยมใช้

วัสดุที่นิยมใช้ผลิตเป็นถังโลหะมีหลายชนิดด้วยกัน ดังนี้

เหล็ก (Steel)

ในวงการอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เหล็กที่จะนำมาใช้หลอมขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ จะนิยมใช้เหล็ก 3 ชนิดคือ

แผ่นเหล็กรีดร้อน:

มีคุณสมบัติต้านทานแรงดึง มีความคงทนของวัสดุสูงและมีความต้านทานต่อการกัดกร่อนจากบรรยากาศได้สูง นิยมนำมาใช้บรรจุผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น ถังผสมกาว ถังน้ำมัน ถังแรงดัน ถังผสมเครื่องดื่ม และถังผสมอาหาร ฯลฯ

เหล้กสแตนเลส

เป็นสแตนเลสที่มีความทนต่ออุณหภูมิสูง ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี แข็งแรงแม้อยู่ในอุณหภูมิที่สูงก็ตาม จึงนิยมใช้บรรจุสารเคมี ก๊าซบางชนิดในการบินและอวกาศ อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ ฯลฯ

อะลูมิเนียม

เป็นถังที่มีความต้านทานในเรื่องของการกัดกร่อน ไม่ก่อให้เกิดสนิม และทนความร้อนได้ดี มีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก ให้ความสวยงามมากกว่า เนื่องจากมีความเงาวาวเหมือนเงิน แต่อาจจะมีราคาสูงกว่าเหล็กโดยตรง และหากเกิดความเสียหายซ่อมแซมยากกว่า ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ผลิตเป็นถังน้ำมัน, ถังบรรจุสารเคมี, ถ้วย ถาด แก้วน้ำ และอุปกรณ์ทำครัว ฯลฯ 

เหล็กเคลือบดีบุก

ทำมาจากเหล็กแผ่นบาง ๆ เคลือบด้วยดีบุก เนื่องจากดีบุกมีคุณสมบัติความคงทนของวัสดุ ทนทานสูง สามารถรีไซเคิลได้ รวมถึงป้องกันการเกิดสนิม การกัดกร่อน และความชื้นได้ดี ปัจจุบันจึงนิยมนำมาใช้ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ได้หลายประเภท เช่น กระป๋องเครื่องดื่ม กระป๋องอาหารและถังสี ฯลฯ

ข้อดี-ข้อเสียของพลาสติก

ข้อดี

  • โลหะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำไปรีไซเคิลได้
  • เพิ่มความสวยงามด้วยลวดลายได้ง่าย และสามารถใช้งานได้หลากหลาย
  • ความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทกสูง จึงเหมาะกับการใช้บรรจุผลิตภัณฑ์เน้นการปกป้องที่ดีเป็นพิเศษ
  • รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงที่ได้ดี เพราะมีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของอากาศ ความชื้น และแสงได้ดี

ข้อเสีย

  • ถังโลหะมีน้ำหนักมาก ทำให้มีค่าต้นทุนทั้งตัวบรรจุภัณฑ์และค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้น
  • ถังโลหะสามารถนำความร้อนได้ดี ทำให้อุณหภูมิภายในถังอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ หากอยู่ในพื้นที่มีอุณหภูมิสูง

เปรียบเทียบจุดเด่นถังพลาสติกเหนือกว่าถังโลหะมีจุดไหนบ้าง

หลายครั้งที่เจ้าของกิจการไม่สามารถตัดสินใจได้ทันทีว่าควรใช้ถังพลาสติกหรือถังโลหะดีกว่ากัน แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัด ต้องยอมรับว่าถังพลาสติกเป็นทางเลือกที่เหนือกว่าโลหะในบางแง่มุม อย่างไรก็ตามเพื่อความเข้าใจมากขึ้นและเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการเห็นภาพ จนนำไปสู่การตัดสินใจเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดไหนดีกว่ากัน ตามมาดูข้อมูลข้อเปรียบเทียบระหว่างพลาสติกและโลหะกันว่ามีอะไรกันบ้าง

ชนิดบรรจุภัณฑ์ /ข้อเปรียบเทียบถังพลาสติกถังโลหะ
น้ำหนักมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่ายช่วยลดต้นทุนในการขนย้ายหรือขนส่งมีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายยากมีต้นทุนสูงในการขนย้าย หรือขนส่ง 
ความทนทานต่อการกัดกร่อนไม่เป็นสนิมทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด ไม่ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของถังหรือมีสารปนเปื้อนมีโอกาสเกิดสนิมได้ง่าย หากมีการเคลือบสารกันสนิมและสารกันการกัดกร่อน จากโรงงานผลิตไม่ได้มาตรฐาน
ราคาและกำลังการผลิตราคาต้นทุนไม่สูง และมีกำลังการผลิตแต่ละครั้งจำนวนมากรองรับโอกาสทางการค้าได้สูง ในกรณีที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากราคาต้นทุนสูง ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุของถัง มีกำลังการผลิตจำกัดมีโอกาสเสียโอกาสทางการค้า เนื่องจากมีข้อจำกัดในการผลิตสินค้า
ความทนทานแรงกระแทกมีความทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง ทำให้ป้องกันความเสียหายของผลิตภัณฑ์ได้ดี
ความยืดหยุ่นมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์ได้ง่าย มีความหลากหลายเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าพลาสติก ส่งผลเสียต่อกระบวนการขึ้นรูปเป็นไปค่อนข้างยาก จึงทำให้มีราคาต่อหน่วยสูง
การรีไซเคิลนำมารีไซเคิลได้ในบางชนิดเท่านั้น เช่น PET PP เป็นต้น บางชนิดรีไซเคิลไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมสามารถนำมารีไซเคิลได้ทั้งหมด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความทนทานต่อความร้อนและรังสียูวีสามารถทนทานต่อรังสียูวีได้ในระดับที่ดี แต่ซึ่งบางชนิดอาจจะเสื่อมสภาพเมื่ออยู่โดนแสงนานเป็นระยะเวลานานสามารถทนทานต่อแสงยูวีได้ดีกว่าถังพลาสติก เนื่องจากมีความโมลกุลหนาแน่นกว่าพลาสติก
ความปลอดภัยพลาสติกไม่นำไฟฟ้า ช่วยลดปัญหาไฟฟ้าสถิตและประกายไฟได้ไม่มีความคมหรือมีขอบแหลมมีความโปร่งแสง ทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพของเหลวภายในได้ง่ายมีวัสดุที่นำไฟฟ้า ทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงในการเกิดประกายไฟได้ถังโลหะมักจะมีความทึบแสง ทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากภายนอกได้

ยกตัวอย่างแนวทางการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก

หลังจากเจ้าของกิจการตัดสินใจว่าให้ความสนใจต่อการใช้ภาชนะพลาสติก ขั้นตอนต่อมาคือการเลือกบริษัทผู้ผลิต ซึ่งแนะนำ บริษัท แสงรุ่ง กรุ๊ป จำกัด เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีกำลังผลิตสูง ในราคาไม่แพงมาก บรรจุภัณฑ์มีคุณภาพและความปลอดภัย ภายใต้การรับรองมาตรฐานการผลิตด้วย “มอก.655” ซึ่งสามารถผลิตบรรจุภัณฑ์เคมี บรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์ทำความสะอาด และยังรับผลิตบรรจุภัณฑ์ตามแบบของลูกค้า รวมถึงให้คำแนะนำที่ดีบรรจุภัณฑ์ ส่งผลดีต่อการเติบโตทางธุรกิจต่อเจ้าของแบรนด์ในอนาคตเป็นอย่างดี

สรุป: ถังพลาสติกตัวช่วยที่ใช่ที่เจ้าของแบรนด์ให้เลือกใช้งานต่อเนื่อง

ต้องยอมรับว่าถังพลาสติก ไม่ได้เป็นแค่บรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรมต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์หลาย ๆ ข้อต่อเจ้าของกิจการจริง ๆ จากจุดเด่นพลาสติกในหลายมิติไม่ว่าจะเป็นช่วยประหยัดต้นทุน การดูแลรักษา ความคงทนของวัสดุสูง ประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการใช้งานในอุตสาหกรรมพลาสติก นำไปสู่การเพิ่มผลกำไรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการจาก แสงรุ่ง กรุ๊ป จำกัด ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของกิจการได้โดยตรง เพราะมีประสบการณ์ และมีกำลังผลิตสูง พร้อมทั้งให้คำแนะนำต่อผลิตภัณฑ์พลาสติกทุกรูปแบบ เพื่อวางแผนให้แบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืน

error: Content is protected !!