การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากบรรจุภัณฑ์บางประเภทสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งสินค้าประเภทต่างๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าบรรจุภัณฑ์บางประเภทอาจมีสารเคมีผสมอยู่ ทำให้เกิดผลกระทบมาจากอาหารหรือสินค้าและทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
ไม่เพียงแค่สุขภาพของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการเจือปนสารเคมีที่ผสมอยู่ในบรรจุภัณฑ์ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ยังสามารถสร้างผลกระทบต่อธรรมชาติและโลกได้อีกด้วย ดังนั้น เราควรมีความรู้และเข้าใจถึงบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการเก็บรักษาอาหารและสินค้า เพื่อความปลอดภัยของเราและสิ่งแวดล้อมด้วย
บทความนี้จะพาท่าน มาทำความเข้าใจและรู้จักกับบรรจุภัณฑ์ที่ถูกนับว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใส่สารเคมี เราขอนำเสนอเคล็ดลับในการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุผลและประโยชน์ของการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกัน เรามาทำความรู้จักกับเกณฑ์และเคล็ดลับในการเลือก บรรจุภัณฑ์สำหรับสารเคมี
วิธีเลือกบรรจุภัณฑ์สำหรับเคมีรุนแรง ที่ควรรู้เบื้องต้น
การเลือกบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอันตรายหรือเคมีรุนแรง จะต้องใช้ความระมัดระวังสูง บรรจุภัณฑ์เหล่านี้ต้องทนทาน สามารถป้องกันการรั่วไหลของสินค้าและยังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะขนส่งได้ แต่การเลือกที่ถูกต้องอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เราต้องรู้ว่าการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้กับสินค้าอันตรายต่าง ๆ นั้น บรรจุภัณฑ์ที่ท่านเลือกจะต้องผ่านมาตรฐาน UN Mark ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการรับรองว่าเหมาะสมสำหรับการขนส่งสินค้าอันตราย
การทราบถึงข้อแนะนำของสหประชาชาติเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าอันตราย จะช่วยให้คุณสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ถูกต้องได้อย่างแน่นอน ข้อแนะนำต่างๆ นี้ ได้อธิบายถึงวิธีการเลือก การทดสอบ และสัญลักษณ์ที่ควรมีบนบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอันตราย การเข้าใจถึงข้อแนะนำนี้จะช่วยให้คุณสามารถส่งออกสินค้าอันตรายหรือเคมีรุนแรงไปยังปลายทางได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมายหรือปัญหาต่างๆ
สิ่งที่ควรรู้ เกี่ยวกับสัญลักษณ์เตือนสากลบนบรรจุภัณฑ์เคมี
ในยุคของโลกาภิวัตน์ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีต่างๆ เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และนำมาสู่การต้องใช้สัญลักษณ์เตือนอันตรายบนบรรจุภัณฑ์เคมี เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เรามาดูข้อมูลเบื้องต้นกัน
1. ประวัติของสัญลักษณ์เตือน:
สัญลักษณ์เตือนสากลนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นภาษาสากลในการแสดงความเป็นอันตรายของสารเคมี และถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2552 ในสหภาพยุโรป และปัจจุบันมีการใช้งานในกว่า 65 ประเทศทั่วโลก
2. รูปแบบสัญลักษณ์:
CLP/ GHS กำหนดรูปแบบสัญลักษณ์เป็นกราฟิก 9 แบบ เพื่อตรงกับประเภทของความเป็นอันตราย เริ่มต้นที่ GHS01 ไปจนถึง GHS09 รูปตัวเลขเพชรสีแดงบนพื้นหลังสีขาวแสดงถึงความเป็นอันตราย และมีสัญลักษณ์สีดำที่แสดงถึงประเภทของความเสี่ยง
3. การใช้งาน:
ฉลากสินค้าที่มีสารเคมีควรมีสัญลักษณ์เตือนอันตรายในตำแหน่งที่ชัดเจน พร้อมกับข้อความเตือนและคำแนะนำการใช้งานเพื่อความปลอดภัย
เราควรทราบถึงความหมายของสัญลักษณ์เหล่านี้ เพื่อให้เราสามารถใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยและถูกต้อง ป้องกันการเกิดอันตรายแก่ตนเองและคนรอบข้าง เป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบในการประกอบการเป็นผู้บริโภค
ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องระมัดระวังของการรีไซเคิลและรียูสบรรจุภัณฑ์เคมี
ในยุคที่เราต้องตระหนักถึงการรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น การรีไซเคิลและรียูสบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่มีสารเคมี เราต้องเข้าใจความเสี่ยงและการใช้งานอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น มีอะไรบ้าง เรามาดูข้อมูลกัน
1. ความเสี่ยงจากการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์เคมี
บรรจุภัณฑ์ที่เคยมีสารเคมีอาจยังมีสารตกค้างภายใน ในการนำบรรจุภัณฑ์มารีไซเคิลโดยไม่ทำความสะอาดอย่างถูกต้องอาจทำให้สารเคมีตกค้างผสมกับวัสดุรีไซเคิล อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการใช้งานในภายหลังได้
2. ความเสี่ยงจากการรียูสบรรจุภัณฑ์เคมี
การนำบรรจุภัณฑ์เคมีมาใช้เก็บสิ่งของอื่นๆ โดยไม่ได้ทำความสะอาดอย่างถูกต้องหรือไม่ทราบถึงสารเคมีบางอย่างที่เคยมีอยู่ในบรรจะภัณฑ์นั้นๆ อาจมีผลกระทบจากสารเคมีที่ตกค้างและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
3. วิธีการรีไซเคิลและรียูสอย่างปลอดภัย
ควรทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์ที่จะนำมารีไซเคิลหรือรียูสเป็นอย่างดี อย่าลืมตรวจสอบเครื่องหมายและคำเตือนบนบรรจุภัณฑ์ โดยสามารถนำมาใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพหรือการปนเปื้อนเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานด้วย
การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความปลอดภัยส่วนบุคคลและสุขภาพสาธารณะเป็นสิ่งที่ยิ่งสำคัญยิ่งกว่า เราควรต้องเข้าใจความเสี่ยงและวิธีการป้องกันเมื่อต้องการรีไซเคิลหรือรียูสบรรจุภัณฑ์ที่มีสารเคมีอย่างถูกต้องก่อนใช้งาน
เทคนิคเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยจากสารเคมี
เมื่อพูดถึงการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยจากสารเคมี ไม่ใช่เรื่องที่ยากเมื่อคุณรู้เทคนิคที่ถูกต้อง เราทุกคนต้องการใช้สินค้าที่มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เรื่องสารเคมีในบรรจุภัณฑ์ถือว่าเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจมากในปัจจุบัน และเราอาจพบกับข้อมูลหลายแห่งที่บอกว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่ดี แต่ในครั้งนี้ เราขอนำเสนอเทคนิคที่จะช่วยให้คุณเลือกบรรจุภัณฑ์อย่างมั่นใจได้ปลอดภัย
เริ่มต้นคือการทำความเข้าใจในสัญลักษณ์หรือการรับรองต่างๆ ที่แสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์ การรู้และเข้าใจสัญลักษณ์เหล่านี้ จะช่วยให้คุณได้ตระหนักว่าสินค้าเหล่านั้นผ่านมาตรฐานปลอดภัยจากสารเคมีหรือไม่ นอกจากนี้ การรู้จักศึกษาและหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารเคมีที่อาจพบในบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะเมื่อคุณรู้จักกับสารเคมีเหล่านั้น คุณจะรู้ว่าอะไรควรหลีกเลี่ยง
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การไม่ยึดติดกับแบรนด์หรือสินค้าที่คุณเคยรู้จัก การเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ โดยพิจารณาจากข้อมูลและความรู้ที่คุณได้ศึกษามาหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับข้อมูลสารเคมีต่างๆ จะทำให้คุณเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยจากสารเคมีได้ดียิ่งขึ้น
การเลือกบรรจุภัณฑ์ UN ให้เหมาะสม มีเกณฑ์การเลือกอย่างไร?
การขนส่งสินค้าอันตราย เช่น เคมีรุนแรง ต้องใช้การจัดการที่รอบคอบและความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อคนและสิ่งแวดล้อม การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดี ดังนี้
1. การใช้เอกสารข้อมูลความปลอดภัย (SDS หรือ Safety Data Sheet)
เอกสาร SDS จะสามารถให้ข้อมูลพื้นฐานสำคัญดังนี้:
- เลขอ้างอิง 4 หลัก: แสดงสมบัติของสารอันตรายตามข้อกำหนด UN (UN number)
- ชื่อที่ถูกต้องของการขนส่งสินค้าอันตราย (Proper Shipping Name)
- คุณสมบัติทางเคมี เช่น สถานะทางกายภาพ ค่าความดันไอ และความหนาแน่นสัมพัทธ์
2. การพิจารณากลุ่มการบรรจุ
กลุ่มการบรรจุแบ่งตามระดับความเป็นอันตรายของสาร:
- ระดับ I: อันตรายมาก
- ระดับ II: อันตรายปานกลาง
- ระดับ III: อันตรายน้อย
เพื่อความปลอดภัย ต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีการระบุตัวอักษรสำหรับกลุ่มการบรรจุ:
- X: สำหรับกลุ่มการบรรจุ I, II และ III
- Y: สำหรับกลุ่มการบรรจุ II และ III
- Z: สำหรับกลุ่มการบรรจุ III
ในการเลือกบรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญคือการทราบถึงความเป็นอันตรายและคุณสมบัติของสาร จากนั้นเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ตรงตามกลุ่มการบรรจุที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่ง
วิธีการทดสอบและการรับรองบรรจุภัณฑ์ตามมาตรฐาน UN
การทดสอบบรรจุภัณฑ์ UN สำหรับการขนส่งสินค้าอันตรายเป็นกระบวนที่สำคัญเพื่อรับรองว่าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้จะเสถียร ปลอดภัย และมีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด การทดสอบนี้จะประกอบด้วยหลายขั้นตอนดังนี้
ทดสอบความทนทานการตกกระแทก (Drop Test):
บรรจุภัณฑ์ที่ถูกทดสอบจะถูกทิ้งลงบนพื้นที่แข็งแรงจากความสูงที่กำหนด เพื่อดูว่าเมื่อบรรจุภัณฑ์ตกกระแทก มีการแตกหัก รั่วซึม หรือเสียหายในลักษณะใดบ้างหรือไม่
ทดสอบความทนทานการเรียงซ้อน (Stacking Test):
การทดสอบนี้เน้นไปที่การวางน้ำหนักระหว่างบรรจุภัณฑ์ เพื่อดูว่าบรรจุภัณฑ์สามารถรองรับน้ำหนักรวมกันในการเรียงซ้อนหรือไม่ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
ทดสอบคุณสมบัติป้องกันการรั่วซึม (Leakproofness Test):
วัสดุของบรรจุภัณฑ์จะถูกทดสอบเรื่องการป้องกันการรั่วซึม เพื่อให้แน่ใจว่าสารอันตรายภายในไม่สามารถรั่วซึมออกมาจากบรรจุภัณฑ์
ทดสอบความต้านทานความดันภายใน (Internal Pressure Test):
บรรจุภัณฑ์จะถูกทดสอบเรื่องความทนต่อความดันภายใน โดยวัดว่าบรรจุภัณฑ์สามารถรับความดันที่เพิ่มขึ้นจากภายในโดยไม่มีการแตกหักหรือเสียหายใดๆ
ผลจากการทดสอบเหล่านี้จะเป็นการยืนยันว่าบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน UN มีคุณภาพ ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับการขนส่งสินค้าอันตราย
อ่านบทความเกี่ยวกับสัญลักษณ์ UN เพิ่มเติมได้ที่
https://www.srgplastic.com/ผลิตถังพลาสติก/
https://www.srgplastic.com/packaging-selection/
เอกสารอ้างอิง
https://plastichouseltd.com/blogrp-ออกแบบบรรจุภัณฑ์เกษตร/
https://www.tosh.or.th/images/file/2020/398-1.pdf?_t=1582269162
https://safety-risk-environment.blogspot.com/2008/12/blog-post_02.html#google_vignette